Google

วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

บทความ : เขียนเว็บด้วยภาษา PHP 2

วันนี้เรามาเรียนรู้การเขียนเว็บด้วย PHP กันต่อนะครับ
จากครั้งที่แล้วเมื่อเราโหลดโปรแกรมต่าง ๆ มาล่ะ (แต่ผมดาวน์โหลด AppServ ที่มัน รวม mysql php appserv มาให้ครบ) ลงแค่ตัวเดียวเขียน PHP ได้เลย! ง่ายดีครับคราวนี้ก็จัดการติดตั้งเลยคับเมื่อทำการติดตั้งเสร็จ อืมมม เราลองมาทดสอบกันว่าเราลง AppServ สำเร็จหรือเปล่า ให้เปิด IE(Internet Explorer) ขี้นมาครับแล้วพิมพ์คำว่า localhost ถ้ามีหน้าจอ AppServ Open Project สรุปว่าลงสำเร็จครับเอาล่ะเราลองมาเขียนเว็บแรกกันเลยดีกว่าครับ
1. เปิดโปรแกรม Notepad ขึ้นมา ไปที่ start/programs/Accessories/Notepad
2. ลองเขียนโค๊ตให้แสดงคำว่า "Say hi my PHP " ในเว็บเราครับ พิมพ์ตามนี้



3. ทำการเซฟครับ ให้ระบุ ดังนี้
3.1 Save in ให้เซฟไว้ในไดเร็กทอรี่ที่เราได้ติดตั้ง AppServ ไว้ เช่นของผมเอาไปไว้ที่ C:\AppServ\www (ต้องไว้ในโฟล์เดอร์ www เท่านั้นคับ)
3.2 File name เป็น myphp1.php
3.3 Save as type เลือก All files
4. ลองมาทดสอบกันครับว่าจะเขียน PHP ผลงานชิ้นแรก เป็นอย่างไรบ้าง
4.1 เปิด IE(Internet Explorer)
4.2 พิมพ์ที่ address ว่า localhost/myphp1.php
4.3 ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด IE(Internet Explorer) จะแสดงคำว่า Say hi my PHP
5. ลองมาทำความเข้าใจกับภาษา PHP ที่เราได้เขียนไว้เมื่อกี้ครับ เมื่อเราเขียนคำสั่งด้วย php ต้องภายใต้เครื่องหมาย(แท็ก)
ถ้าไม่ใส่เครื่องหมายนี้ก็จะไม่สามารถรันคำสั่ง php ได้

แล้ว echo คืออะไร ??????? echo ก็คือการสั่งให้แสดงข้อมูล เช่น ผมอยากให้แสดงคำว่า "Say hi my PHP" ก็เพียงแค่เขียนว่า echo "Say hi my PHP"; สังเกตจะต้องมีเครื่อง ( ; ) ต่อท้ายเพื่อปิดคำสั่งถ้าไม่ปิดอาจจะมี error เกิดขึ้นได้ครับผม
วันนี้เรารู้แล้วว่าวิธีการเขียน php เป็นอย่างไร แล้วจะต้องเซฟไฟล์อย่างไรและจะต้องเซฟไว้ตรงไหนแล้วทำการเปิดเว็บอย่างไรถ้าผู้สนใจเข้าใจขั้นตอนการทำงานแล้ว ต่อไปนี้ท่านก็สามารถเริ่มฝึกเขียนโค๊ดรูปแบบการใช้งานของคำสั่งต่าง ๆ ได้แล้วครับคราวต่อไปผมจะมาอธิบายเรื่องการใช้คำสั่งเบื้องต้น ไว้เจอกันใหม่ครับ...

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

เทคนิคการค้นหาด้วย Google

วิชามาร ใน Google ที่ให้ได้มาซึ่งทุกอย่าง ที่อยากดาวน์โหลด ในอินเตอร์เน็ต คำแนะนำ คุณสามารถใช้วิธีนี้ ในการหาดาวน์โหลดโปรแกรม แคร็ก ซีดี คีย์ หรือต่างๆนานา ที่คุณอยากได้ แต่ผมขอแนะนำว่า คุณควรจะดาวน์โหลด มาเพื่อการทดลอง ทดสอบ หรือการศึกษาเท่านั้น หากคุณชอบ ผมก้ออยากให้คุณซื้อโปรแกรมนั้น
วิธีที่หนึ่ง
พิมพ์คำเหล่านี้ ใน Google Search
(1) " parent directory " DVDRip -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
(2) " parent directory "Xvid -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
(3) " parent directory " Gamez -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
(4) " parent directory " MP3 -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
(5) " parent directory " Name of Singer or album -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
หมายเหตุ ให้คุณเปลี่ยน คำที่ตามหลัง parent directory เช่น MP3 Gamez appz DVDRip เป็นสิ่งที่คุณอยากได้ แล้วก้อค้นหา คุณจะพบกับ ความมหัศจรรย์ใน Google

วิธีที่สอง
พิมพ์คำต่อไปนี้ใน Google
?intitle:index.of? mp3
จากนั้นแค่เพิ่มชื่อ เพลง อัลบั้ม นักร้อง ลงไป เช่น ?intitle:index.of? mp3 myfavoritesongs

วิธีที่สาม
พิมพ์คำต่อไปนี้ใน Google
inurl:micr0s0f filetype:iso
จากนั้น ก้อเปลี่ยน คำว่า micr0s0f กับคำว่า iso เป็นคำที่คุณต้องการ เช่น inurl:myc0mpany filetype:zip

------------------------------เพิ่มเติม-------------------------

1.Google จะใช้ and (และ) อยู่ในประโยคเสมอ เช่น ค้นหา harvest moon back to nature Google จะค้นหาแบบ harvest AND moon AND back... (พูดง่ายๆคือค้นหาแบบแยกคำ)
2. การใช้ OR (หรือ) คือการให้ Google หาข้อมูลมากขึ้นจาก คำA และ คำB (พูดง่ายๆ คือนำผลที่ได้ มารวมกันรวมกัน) วิธีใช้ พิมพ์ OR ด้วยตัวใหญ่ระหว่างคำที่ต้องการ เช่น vacation london OR paris คือหาทั้งใน London และ Paris
3. Google จะละคำทั่วๆไป (เช่น the, to, of) และตัวอักษรเดี่ยว เพราะจะทำให้ค้นหาช้าลง แต่ถ้าคำพวกนั้นสามารถช่วยให้หาข้อมูลง่ายขึ้น ก็ต้องใช้เครื่องหมาย + ช่วยโดยนำไปอยู่หน้าคำนั้น (ต้องเว้นวรรคก่อนด้วย) เช่น back +to nature หรือ final fantasy +x
4. Google สามารถกันขอบเขตการค้นหาให้เล็กลงด้วยการใช้ Advanced Search หรือ การค้นหา แบบพิเศษ ใน Google ภาษาไทย
5. Google สามารถตัดคำพ้องรูปได้โดยใช้เครื่องหมาย - ช่วยโดยการนำไปอยู่คำที่จะตัด เช่น คำว่า bass มี 2 ความหมายคือ เกี่ยวกับปลา และดนตรีเราจะตัดที่มีความหมายเกี่ยวกับดนตรีออกโดยพิมพ์ bass -music หมายความว่า bass ที่ไม่มีคำว่า music นอกจากนี้มันยังสามารถตัดอย่างอื่นได้อีก เช่น "front mission 3" -filetype:pdf หมายความว่า เรื่องเกี่ยวกับ front mission 3 แต่ไม่แสดงไฟล์ PDF
6. การค้นหาแบบทั้งวลี (คือการค้นหาทั้งกลุ่มคำ) ให้ใช้เครื่องหมาย " " เช่น "Breath of fire IV"
7. Google สามารถแปลเว็บภาษา Italian, French, Spanish, German, และ Portuguese เป็น ภาษาอังกฤษได้ (โดยคลิ้กที่คำว่า "Translate this page" ด้านข้างชื่อเว็บ)
8. Google สามารถหาไฟล์ในรูปแบบอื่นๆที่ไม่ใช่ HTML ได้ ประเภทไฟล์ที่รองรับคือ
Adobe Portable Document Format (นามสกุลของไฟล์ pdf)
Adobe PostScript (นามสกุลของไฟล์ ps)
Lotus 1-2-3 (นามสกุลของไฟล์ wk1, wk2, wk3, wk4, wk5, wki, wks, wku)
Lotus WordPro (นามสกุลของไฟล์ lwp)
MacWrite (นามสกุลของไฟล์ mw)
Microsoft Excel (นามสกุลของไฟล์ xls)
Microsoft PowerPoint (นามสกุลของไฟล์ ppt)
Microsoft Word (นามสกุลของไฟล์ doc)
Microsoft Works (นามสกุลของไฟล์ wks, wps, wdb)
Microsoft Write (นามสกุลของไฟล์ wri)
Rich Text Format (นามสกุลของไฟล์ rtf)
Text (นามสกุลของไฟล์ ans หรือ txt)
วิธีใช้ filetype:นามสกุลของไฟล์ เช่น "Chrono Cross" filetype:pdf หมายความว่าเอกสารของ Chrono Cross ที่เป็น PDF และมันยังมีความสามารถดูไฟล์เหล่านั้นในรูปแบบของ HTML ได้ (โดยคลิ้ก View as HTML หรือ รูปแบบ HTML ใน Google ไทย)
9. Google สามารถเก็บ Cached ของเว็บที่จะเข้าชมไว้ได้ (โดยคลิ้กที่ Cached หรือ ถูกเก็บไว้ ใน Google ภาษาไทย) ประโยชน์ของมันคือช่วยให้เราสามารถเข้าเว็บบางเว็บที่อาจโดนลบไปแล้ว โดยข้อมูลที่ได้เป็นข้อมูลก่อนถูกลบ (ใหม่สุดที่มันจะมีได้)
10.Google สามารถค้นหาหน้าที่คล้ายกัน (โดยคลิ้ก Similar pages หรือ หน้าที่คล้ายกัน ใน Google ภาษาไทย) โดยจะค้นหาข้อมูลที่คล้ายๆ กันให้เรา เช่น ถ้าเรากำลังหาข้อมูลการวิจัย ความสามารถนี้จะช่วยให้หาข้อมูลได้มากมายในเวลาที่รวดเร็วโดยไม่ต้องเป็นห่วงเรื่อง keyword
11.Google สามารถค้นหา link ทั้งหมดที่เชื่อมไปยังเว็บนั้นได้ วิธีใช้ link:ชื่อ URL เช่น link:www.google.com แต่คุณไม่สามารถใช้ความสามารถนี้ร่วมกับการหาแบบอื่นๆ ได้
12.Google สามารถค้นหาเว็บที่จำเพาะเจาะจงได้ โดยพิมพ์ คำที่คุณต้องการเจาะจง site:ชื่อ URL เช่น ถ้าคุณต้องการหาเว็บเกี่ยวกับการเข้า (admission) มหาวิทยาลัย Stanford ให้พิมพ์ admission site:www.stanford.edu
13.ถ้าคุณมีเวลาน้อย (และคิดว่าโชคดี) Google มีบริการการค้นหาด่วน (ชื่อบริการ I'm Feeling Lucky) โดยที่ Google จะนำเว็บที่อยู่ลำดับแรกของการค้นหา ส่งให้คุณเลย (link ไปเว็บนั้นให้เสร็จ) เช่น คุณต้องการค้นหาเว็บมหาวิทยาลัย Stanford อย่างด่วนให้พิมพ์ Stanford แล้วกด I'm Feeling Lucky หรือ ใช่เลย! เจอแน่ๆ ใน Google ไทย
14.Google สามารถหาแผนที่ของสหรัฐอเมริกาได้โดยพิมพ์ ที่อยู่ ชื่อถนน พร้อมด้วยชื่อรัฐ เช่น 165 University Ave Palo Alto CA Google จะจัดการส่งแผนที่คุณภาพสูงมาให้คุณ
15.Google สามารถหาเบอร์โทร (เฉพาะอเมริกา) หรือพิมพ์เบอร์โทรแล้วหาบริษัทได้โดยพิมพ์
first name (or first initial), last name, city (state is optional)
first name (or first initial), last name, state
first name (or first initial), last name, area code
first name (or first initial), last name, zip code
phone number, including area code
last name, city, state
last name, zip code
แล้วแต่ว่าคุณจะใช้แบบไหน
16.Google สามารถค้นหา Catalog สินค้าได้ (เข้าไปที่ http://catalogs.google.com)
17.Google สามารถเก็บข้อมูลลักษณะการใช้ที่คุณต้องการได้โดยเข้าไปที่ Preferences หรือ ตัวเลือก ใน Google ไทย

เก็บมาฝาก จาก pantip.com

บทความ : เขียนเว็บด้วยภาษา PHP 1

อยากเขียนเว็บด้วยภาษา PHP และสามารถเชื่อมต่อฐานข้อมูล MySql จะต้องทำอย่างไรบ้าง

สิ่งที่จะต้องมี

1. เครื่องคอมพิวเตอร์ (ขาดไม่ได้แน่ ๆ)
2. โปรแกรมจำลองเครื่องเป็น web server ขอแนะนำ โปรแกรม AppServ
3. โปรแกรมฐานข้อมูล Mysql
4. ตัวแปลภาษา PHP

จะหาสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ได้จากที่ไหน

1. เครื่องคอมพิวเตอร์ (ซื้อมาเอง)
2. โปรแกรมจำลองเครื่องเป็น web server (AppServ สามารถดาวน์โหลดได้ในเว็บนี้) หรือ http://www.appservnetwork.com/
3. โปรแกรมฐานข้อมูล MySql สามารถดาวน์โหลดได้ในเว็บนี้ หรือ http://www.mysql.com/
4. ตัวแปลภาษา PHP สามารถดาวน์โหลดได้ในเว็บนี้ หรือ http://www.php.net/
หมายเหตุ โปรแกรม AppServ บางเวอร์ชั่น จะรวม MySql และ PHP มาให้ด้วย เราก็ไม่ต้องลง MySql และ PHP ซะให้ยุ่งยาก

ทำไมต้องเขียนด้วย PHP แล้วทำไมต้องใช้ฐานข้อมูลของ MySql แล้วทำไมต้องใช้ AppServ เป็น web sever ?????????
คำตอบ ก็มันเป็นของฟรีกันทั้งน๊านนนน ส่วนใหญ่เราก็ชอบกันของฟรี ๆๆ กันก็เลยต้องเล่นของฟรี ๆ ไปก่อนถ้าวันไหนมีตังค์ก็ลองซื้อของที่เค้าทำมาขายมาเล่นครับ เพราะของที่เค้าทำมาขายคงจะดีกว่าของฟรี ๆๆ แน่ ๆ ครับ

วันนี้แค่นี้ก่อนนะคราวหน้ามาอัพเดทกันต่อครับ......

SQL คำสั่ง insert select update delete

SQL Code
------------------------------
คำสั่งการเพิ่มข้อมูล

insert into table values('data1',data2,'data n');

เป็นการเพิ่มข้อมูลลงไปในตารางในฐานข้อมูล เช่น
insert into address values('123','ม.3','เมือง','เชียงราย','57000');
ความหมาย เพิ่มข้อมูล '123','ม.3','เมือง','เชียงราย','57000' เข้าไปในตาราง address

------------------------------
คำสั่งการแสดงข้อมูล

select *from table;
เป็นคำสั่งใช้แสดงข้อมูลในตารางฐานข้อมูลออกมา เช่น
select *from address;
ความหมาย แสดงฐานข้อมูลทั้งหมดในตารางที่ชื่อ address
-----------------------------
คำสั่งการลบข้อมูล

delete *from table;

เป็นคำสั่งใช้ลบข้อมูลในตารางฐานข้อมูล เช่น
delete *from address;
ความหมาย ลบข้อมูลทั้งหมดในตาราง address
-----------------------------
คำสั่งการอัพเดทข้อมูล

update table set field1='data1',field2='data2',field3='data n';

เป็นการแก้ไขข้อมูลในตารางในฐานข้อมูล เช่น
update address set province='เชียงราย';
ความหมาย แก้ไขข้อมูลตาราง address โดยให้ Field province='เชียงราย' ทั้งหมดในตาราง address
------------------------------

PHP วิธีการใช้ include require redirect

PHP code
--------------------
การ redirect

header("Location: http://www.myweb.com");

เป็นการกระโดดจากเว็บที่กำลังทำงานอยู่ไปอีกเว็บหนึ่ง
--------------------
การ include

include("ชื่อไฟล์");

เป็นการเรียกใช้ไฟล์อื่นมาทำงานรวมกับไฟล์ที่กำลังทำงานอยู่ เช่น include("connect.php");
--------------------
การ require

require("ชื่อไฟล์");

เป็นการเรียกใช้ไฟล์อื่นมาทำงานรวมกับไฟล์ที่กำลังทำงานอยู่เหมือน include เช่น require("connect.php");
-------------------

PHP วิธีการตัดตัวอักษร

PHP code
---------------------------
$string = "My World"; //ข้อความที่ต้องการนำมาตัด
$newstring = substr($string, 3, 4);
echo $newstring;

ผลลัพธ์ =Worl

PHP วิธีการกำหนดรูปแบบของตัวเลข

PHP code
---------------------------------------
รูปแบบที่ 1
$num=1235.58;
echo number_format($num);
ผลลัพธ์ = 1,236

รูปแบบที่ 2
$num=1235.58;
echo number_format($num,2',','');
ผลลัพธ์ = 1236,58

รูปแบบที่ 3
$num=1235.587584;
echo number_format($num,2'.','');
ผลลัพธ์ = 1236.58